ทำเสป็คราชการ (TOR) เข้างานราชการ ออกใบเสนอราคา และ ออกใบกำกับภาษี ในรูปแบบริษัทได้
KRCSHOP x Oceanus Research & Development เป็นผู้พัฒนาด้าน Software
MARCUS-B อากาศยานไร้คนขับเพื่อการลาดตระเวนทางทะเลแบบที่ 2 MARCUS-B ผลงานของ สวพ.ทร.
เผยโฉม UAV MARCUS B สร้างในประเทศ โดยคนไทย. เทียบเท่าของต่างประเทศ
ภาพที่เห็นอยู่นี้เป็นอากาศยานไร้คนขับเพื่อการลาดตระเวนทางทะเลที่ชื่อว่า MARCUS B ผลงานล่าสุดของ สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ (สวพ.ทร.) โดยร่วมงานกับบริษัท สยาม ดราย เทค จำกัด ในด้านการออกแบบและผลิตโครงสร้างอากาศยานไร้คนขับด้วยวัสดุ Pre-Impregnated หรือ Dry Carbon ที่มีความทนทานแต่มีน้ำหนักเบาพิเศษ และ บริษัท พิมส์ เทคโนโลจิส จำกัด ในด้านการพัฒนาระบบโปรแกรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ หรือ TBACCS (Tactical-Based Aerial Command Control System) ซึ่งนับว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาร่วมกับภาคเอกชนของประเทศไทย ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและการพัฒนา นายทหารโครงการคือ น.อ. ภาณุพงศ์ ขุมสิน MARCUS B พัฒนามาจาก MARCUS รุ่นแรก ที่ได้เปิดตัวครั้งแรกใน พิธีเปิดการฝึก ทร. 64 เมื่อ 12 มี.ค. 2564 โดยใช้เวลาพัฒนาเพียง 6 เดือนเท่านั้น
เป้าหมายของการพัฒนา MARCUS นั้นต้องการตอบสนองต่อความต้องการและข้อจำกัดของการใช้งานทางทะเลเป็นการเฉพาะ โดยกำหนดให้เป็นอากาศยานไร้คนขับแบบปีกนิ่งขึ้นลงทางดิ่ง อาศัยข้อดีของการเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบปีกนิ่งที่สามารถเดินทางได้รวดเร็ว มีระยะเวลาในการบินได้นาน เหมาะสมต่อการปฏิบัติการทางทะเลที่มีพื้นที่กว้าง แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อดีที่สามารถขึ้นลงในทางดิ่ง เช่นเดียวกับอากาศยานไร้คนขับแบบปีกหมุน จึงทำให้ MARCUS สามารถขึ้นลงได้จากแทบทุกสถานที่ มีความสะดวกในการใช้งานและการบำรุงรักษาจากข้อจำกัดที่จะต้องใช้กำลังพลในการปฏิบัติการให้น้อยที่สุด
MARCUS B มีขนาดใหญ่กว่าและน้ำหนักมากกว่า MARCUS รุ่นแรก มีพื้นที่ปีกเพิ่มเป็น 3 เท่า แต่น้ำหนักขึ้นบินเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 เท่า โดยมี ความยาวระหว่างปลายปีกซ้ายและขวา 4.3 เมตร ความยาวระหว่างหัวเครื่องถึงท้ายเครื่อง 2.5 เมตร น้ำหนักขึ้นบินปกติ 45 กก. สามารถบรรทุกน้ำหนักได้กว่า 10 กก. มีแรงยก 40 กก. ที่ความเร็ว 37 นอต ระยะบินไกล 160-180 กม. ที่สำคัญคือ บรรทุกแบตเตอรี่ได้สูงสุด 60 Ah ทำให้สามารถบินได้นาน กว่า 2 ชม. ซึ่งบินได้นานกว่า MARCUS รุ่นแรกถึง 2 เท่า ถึงแม้จะมีการจัดหาชิ้นส่วนจากต่างประเทศ แต่เน้นที่ต้องหาได้ง่าย ถูก ไม่ยึดติดกับ brand หรือประเทศผู้ผลิต ซึ่งตลาดจีนเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก ดี ถูก มีการแข่งขันสูง มีตัวเลือกมาก ในอนาคตได้เตรียมพัฒนาถึงขั้นสามารถผลิตแผงวงจรควบคุมการบินและการสื่อสาร ที่สามารถผลิต ซื้อได้เองในประเทศด้วย
MARCUS B อยู่ระหว่างการทดสอบสมรรถนะขั้นสุดท้าย และจะเข้าสู่สายการผลิตในปีนี้ เพื่อให้กองทัพเรือได้ใช้งานต่อไป
MARCUS-B เหมาะสมต่อการขึ้นลงจากฝั่งหรือเรือใหญ่ เช่น ร.ล. จักรีนฤเบศร และ ร.ล. อ่างทอง เป็นต้น
การที่ สวพ.ทร. ออกแบบและสร้าง UAV ที่สามารถใช้งานได้จริง และตอบสนองความต้องการของกองทัพเรือ ย่อมแสดงให้เห็นภูมิปัญญาของคนไทย นอกจากนี้ยังมีราคาถูกกว่าการซื้อ UAV จากต่างประเทศ ที่มีขีดความสามารถและคุณลักษณะใกล้เคียงกัน ทำให้ประหยัดงบประมาณและพึ่งพาตนเองได้
...ขอขอบคุณข้อมูลจาก สวพ.ทร.